ทำความรู้จักกับอิฐแต่ละประเภท

ทำความรู้จัก อิฐ

อิฐ ส่วนประกอบหลักของการสร้างบ้าน รากฐานสำคัญที่ทำให้บ้านเป็นรูปเป็นร่าง อิฐมีหลายขนาด หลายประเภทแตกต่างกันตามคุณสมบัติ ซึ่งล้วนมีผลต่อความคงทนแข็งแรง การระบายความร้อน ความชื้นของบ้าน การรับน้ำหนัง การกันไฟ และเวลาในการก่อสร้าง ดังนั้นการเลือกใช้อิฐให้เหมาะกับงานก่อสร้างและความต้องการใช้งานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่เจ้าของบ้านควรรู้เพื่อบอกความต้องการและพูดคุยกับบริษัทรับสร้างบ้านให้เข้าใจตรงกัน

อิฐ

อิฐมอญ

อิฐบล็อก

อิฐมวลเบา

อิฐขาว

ทำความรู้จักกับอิฐแต่ละประเภท

1. อิฐมอญ

อิฐมอญ หรืออิฐแดง หรืออิฐดินเผา อิฐก่อสร้างยอดนิยม ที่มีส่วนประกอบหลักคือดินเหนียว ทรายหรือขี้แกรบ และน้ำ ผสมกันในอัตราส่วนที่เหมาะสม จากนั้นจึงนำไปใส่แบบพิมพ์อัดเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำไปเผาเพื่อให้มีความแข็งแรงและคงรูปร่างไว้ เป็นอิฐที่ถูกใช้นงานก่อสร้างมาหลายสิบปี เพราะคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพอากาศในประเทศไทย

สอบถาม และ สั่งซื้อสินค้า ที่นี่!!

การผลิตอิฐมอญมีด้วยกัน 2 แบบคือ

  • อิฐมอญตันมือ เป็นการผลิตโดยการอัดดินใส่แม่พิมพ์ ทิ้งไว้จนแห้งแล้วนำไปเผา วิธีนี้อิฐอาจมีขนาดและสัดส่วนไม่ตายตัวขึ้นอยู่กับรูปแบบและแหล่งผลิต
  • อิฐมอญเครื่อง เป็นการผลิตโดยการรีดขึ้นรูป จากนั้นตัดเป็นท่อนๆ แล้วนำไปผ่านกระบวนการอบไล่ความชื้น ก่อนนำไปเผาเพื่อคงรูปและเพิ่มความแข็งแรง ในกระบวนการนี้อิฐจะมีขนาดที่เท่ากัน

โดยทั่วไปอิฐมอญจะขนาดประมาณ กว้างประมาณ 2.5 – 3 ซม. ยาวประมาณ 14 – 16 ซม. และหนาประมาณ 6- 6.5 ซม.

นิยมใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้วัสดุกรุผนังที่มีน้ำหนักมากๆ สามารถใช้การก่ออิฐโชว์แนว ก่อผนังสไตล์ลอฟท์และวินเทจ หรือตกแต่งสวน

ข้อดีของอิฐมอญ

  • สามารถยึดเกาะได้ดี มีความหนาแน่นสูง
  • แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศในไทย
  • หาซื้อได้ง่าย มีราคาไม่แพง
  • สามารถทนไฟได้ประมาณ 2 ชั่วโมง
  • สามารถรับน้ำหนักได้ 30 กิโลกรัม/1 ตารางเซนติเมตร
  • เป็นอิฐที่เกิดจากกระบวนการผลิตด้วยการเผาตามภูมิปัญญาชาวบ้าน จึงทำให้มีสีสันที่มีความคลาสสิค เป็นเสน่ห์ที่หลายคนชื่นชอบ

อิฐมอญ

อิฐมอญ

อิฐมอญ

ข้อจำกัดของอิฐมอญ

  • ดูดความชื้น
  • สะสมความร้อน
  • อิฐมอญส่วนใหญ่ผลิตจากชุมชน อาจมีคุณภาพ มาตรฐาน และขนาดไม่สม่ำเสมอ
  • มีคุณสมบัติอมความร้อน ส่งผลทำให้บ้านร้อนได้
  • มีขนาดเล็ก จึงใช้เวลาก่อสร้างค่อนข้างนาน และค่าแรงก่อสร้างแพง
  • ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการเก็บเสียง

***ปัญหาเรื่องบ้านร้อน หรือปัญหาการเก็บเสียงจากการใช้อิฐมอญ ส่วนใหญ่ทีมสถาปนิกและทีมทำงานที่เชี่ยวชาญจะมีเทคนิคการก่อสร้างที่สามารถแก้ไขได้

2. อิฐบล็อก

อิฐที่ทำจากปูนซีเมนต์และทราย ซึ่งถูกผลิตในลักษณะอุตสาหกรรมมากกว่าอิฐมอญ ส่วนใหญ่จะมีสีเทาตามสีของส่วนประกอบที่ใช้ผลิต โดยมีลักษณะเด่นคือมีรูกลวงตรงกลางช่วยให้นำหนักเบาขั้น และช่วยถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่าอิฐมอญ โดยนิยมใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป เหมาะสำหรับงานที่เน้นการคุมค่าใช้จ่าย เพราะราคาถูกและใช้เวลาสร้างเร็วกว่าอิฐมอญ

สอบถาม และ สั่งซื้อสินค้า ที่นี่!!

ข้อดีของอิฐบล็อก

  • ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะราคาที่ถือว่าถูกที่สุดเมื่อเทียบกับอิฐชนิดอื่นๆ
  •  ขนาดต่อก้อนใหญ่ จึงสะดวกในการใช้ก่อสร้าง และใช้เวลาไม่นาน

ข้อจำกัดของอิฐบล็อก

  • หากฉาบปูนไม่ได้มาตรฐานจะมีโอกาสเกิดปัญหาการรั่วซึมได้สูง
  • ความสามารถในการรับแรงกดได้น้อยกว่าอิฐชนิดอื่นๆ
  • มีปัญหาเรื่องการเก็บเสียง
  • หากมีการเจาะจะทำได้ค่อนข้างยากเพราะเสี่ยงต่อการแตกร้าว
  • ไม่เหมาะสำหรับงานเดินท่อไฟ หรือท่อประปาในผนัง

***การใช้งานอิฐบล็อกไม่ควรใช้ในการก่อผนังห้องน้ำ เพราะมีโอกาสรั่วซึมสูง ด้วยเนื้ออิฐบล็อกที่มีรูพรุนมากกว่าอิฐชนิดอื่น รวมทั้งมีคุณสมบัติดูดซับน้ำ รับน้ำหนักได้น้อย ดังนั้นอิฐบล็อกจึงเหมาะกับการก่อสร้างผนังโกดัง โรงงาน ที่ต้องการประหยัดงบประมาณและเวลาก่อสร้าง นอกจากนี้อิฐบล็อกอาจถูกนำไปใช้ในการก่อสร้างกำแพงหรือการต่อเติมภายนอกบ้าน

3. อิฐมวลเบา

        อิฐมวลเบาเป็นอิฐที่มีการคิดค้นขึ้นมาใหม่ มีส่วนประกอบหลักคือปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ อะลูมิเนียมที่ใช้ในการก่อฟองอากาศ ยิปซัม ปูนขาว ทรายละเอียด และน้ำ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัยทำให้อิฐแต่ละก้อนมีขนาดมาตรฐาน มีน้ำหนักเบา ช่วยลดการสูญเสียในการก่อสร้าง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำผนังบ้านที่ต้องการลดน้ำหนักของโครงสร้าง

      ขนาดมาตรฐานของอิฐมวลเบาคือ กว้างประมาณ 20 เซนติเมตร กว้างประมาณ 60 เซนติเมตร ส่วนความหนามีหลายระดับตั้งแต่ 7.5 เซนติเมตร ไปจนถึง 20 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

ข้อดีของอิฐมวลเบา

  • มีการผลิตจากโรงงานที่มีการควบคุมมาตรฐาน และมีกระบวนการผลิตที่ทันสมัย จึงมีขนาดได้มาตรฐานเท่ากันทุกก้อน
  • สามารถใช้ก่อทั้งแนวดิ่ง และก่อฉากได้ง่าย
  • มีน้ำหนักเบา จึงลดภาระการรับน้ำหนักของโครงสร้างหลัก
  • มีลักษณะเป็นฟองอากาศ จึงเป็นฉนวนกันความร้อนได้ดี และทนไฟได้นานกว่า 4 ชั่วโมง
  • ขนาดก้อนใหญ่ ช่วยลดเวลาและค่าแรงในการก่อสร้าง
  • สามารถรับน้ำหนักได้ 35 กิโลกรัม/1 ตารางเซนติเมตร

ข้อจำกัดของอิฐมอญ

  • อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มหากต้องการใช้อิฐมวลเบาร่วมกับอิฐอื่นๆ เพราะต้องใช้ปูนก่อและฉาบสำหรับอิฐมวลเบาเท่านั้น
  • หากจะเจาะแขวนต้องใช้พุกโลหะสำหรับอิฐชนิดนี้เท่านั้น
  • ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับอิฐมอญและอิฐบล็อก

4. อิฐขาว

          อิฐขาวมีส่วนประกอบของปูนขาว และทราย มีการผลิตโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยการอัดด้วยเครื่องจักรที่มีความดัน และอบด้วยความร้อนสูง อิฐขาวจึงมีความแน่น แข็งแรง และทนทานมาก เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทุกชนิด

          ขนาดมาตรฐานของอิฐขาวคือกว้างประมาณ 11 เซนติเมตร ยาวประมาณ 24 เซนติเมตร และหนาประมาณ 6.5 เซนติเมตร

ข้อดีของอิฐขาว

  • สามารถใช้ปูนก่อ ปูนฉาบ และพุก แบบเดียวกับอิฐมอญได้
  • มีการผลิตจากโรงงานเหมือนอิฐมวลเบา จึงมีมาตรฐาน ขนาดก้อนเท่ากัน ช่วยให้ง่ายต่อการก่อแนวดิ่งและฉาก
  • มีความแข็งแกร่ง ทนทานต่อการใช้งาน
  • ประหยัดเวลาในการก่อสร้างจึงลดค่าแรงงานก่อสร้าง
  • ทนความร้อนได้ดี โดยสามารถทนไฟได้นานกว่า 4 ชัวโมง
  • สำหรับการก่อสร้างที่ต้องการโชว์แนวผนัง อิฐขาวถือเป็นทางเลือกที่ดี

ข้อจำกัดของอิฐขาว

  • หาซื้อค่อนข้างยาก เพราะร้านไม่ค่อยมีสต๊อกสินค้า ต้องสั่งจากร้านที่ขายหรือโรงงานผลิตโดยตรง
  • มีราค่าค่าจัดส่งสูง
  • ราคาสูงกว่าอิฐมอญและอิฐบล็อก

สรุป

ปัจจุบันอิฐถูกนำมาใช้ด้วยวัตถุประสงค์ที่หลากหลาย เพราะไม่เพียงเป็นแค่วัสดุในการก่อผนัง แต่สถาปนิกยังอาจนำมาใช้เป็นลูกเล่น หรือเพิ่มดีเทลในงานออกแบบ เพื่อให้บ้านมีชีวิตชีวาหรือมีความแตกต่างมากขึ้น แต่ทั้งนี้การเลือกใช้อิฐให้เหมาะกับการก่อสร้างปัจจัยสำคัญที่ควรใช้ประกอบการพิจารณาคือ วัตถุประสงค์การใช้งาน งบประมาณที่ตั้งไว้ เวลาการก่อสร้าง ที่สำคัญคือความต้องการและความชอบของเจ้าของบ้าน