เหล็กเส้นข้ออ้อย เหล็กที่ขาดไม่ได้

เหล็กเส้นข้ออ้อย เหล็กที่ขาดไม่ได้

เหล็กเส้นข้ออ้อย เหล็กที่ขาดไม่ได้ในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

เพราะเหล็กเส้นข้ออ้อย หรือผู้รับเหมาทั่วไปเรียก เหล็กข้ออ้อย คือหัวใจของงานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก แค่เราเลือกใช้อย่างฉลาดก็คืนทั้งทุนคุ้มทั้งงาน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักเหล็กเส้นข้ออ้อย ( deformed-bar) แนะนำการเลือกซื้อเหล็กข้ออ้อยคุณภาพดีและวิธีการใช้เหล็กเส้นข้ออ้อยให้เหมาะสมกับงานก่อสร้าง เพื่อการใช้งานได้ยาวนาน ปกติแล้วเหล็กเส้นข้ออ้อยมักใช้ในงานคอนกรีตเสริมเหล็ก เช่น งานถนน งานสะพาน งานอาคาร บ้าน และงานก่อสร้างทั่วไป

ลักษณะของเหล็กเส้นข้ออ้อย

ลักษณะของเหล็กเส้นข้ออ้อย คือ เป็นเส้นเหล็กกลม ผิวของเหล็กเป็นปล้องๆ หรือบั้งตลอดเส้นเพื่อเสริมกำลังยึดระหว่างเหล็กเส้นกับเนื้อคอนกรีต เนื้อเหล็กไม่มีสนิม รับแรงได้มากกว่าเหล็กเส้นกลม ได้คุณภาพตามมาตรฐาน มอก.24-2559 หากเราเลือกเหล็กเส้นข้ออ้อยแบบไม่ได้มาตรฐานก็จะส่งผลโดยตรงต่อโครงสร้างอาคารและความแข็งแรงของอาคารนั้นๆได้

กรรมวิธีผลิตของเหล็กเส้นข้ออ้อย

กรรมวิธีผลิตของเหล็กเส้นข้ออ้อย คือ ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพดีผ่านกรรมวิธีรีดร้อน กระบวนการผลิตเหล็กด้วยเตาอิเล็กทริกอาร์กเฟอร์เนซ ( EAF ) ที่นิยมใช้กันทั่วไปมากกว่ากระบวนการผลิตอื่นๆ

เหล็กเส้นเพื่องานโครงสร้าง

เหล็ก DB คือ เหล็กชนิดไหน

deformed-bar คือชื่อภาษาอังกฤษของเหล็กเส้นข้ออ้อย ผู้รับเหมาบางคนเวลาซื้อเหล็กข้ออ้อยจะเรียกว่า DB 12 คือเหล็กเส้นข้ออ้อยขนาด 12 มิล เป็นคำย่อของ deformed-bar แล้วตามด้วยขนาด ดังนั้น DB จึงเป็นอีกหนึ่งชื่อเรียกของเหล็กเส้นข้ออ้อย

SD40กับ SD50 ของเหล็กเส้นข้ออ้อยแตกต่างกันอย่างไร

   SD40 กับ SD50 คือชั้นคุณภาพของเหล็กเส้นข้ออ้อย โดยทั่วไปแล้วเหล็กข้ออ้อยจะมี 3 ชั้นคุณภาพ คือ SD30 SD40 และSD50 แตกต่างกันที่กำลังแรงดึง SD50 จะมีกำลังแรงดึงมากกว่า SD40

วิธีใช้งานของเหล็กเส้นข้ออ้อย

SD50 เหมาะสำหรับงานก่อสร้างขนาดใหญ่ หน้างานระดับสูง โครงการต่างๆไม่ว่าจะเป็นคอนโด อาคารสาธารณะ หรือห้างสรรพสินค้าต่างเลือกใช้ เพราะเหล็กเส้นข้ออ้อย SD50 มีกำลังแรงดึงมากที่สุด ช่วยลดปริมาณเหล็กเสริมในโครงสร้างมากกว่า 20%    เป็นวิธีที่นิยมใช้เพื่อลดต้นทุนในการก่อสร้าง แต่ยังคงคุณภาพอาคารได้ดีเหมือนเดิม เพราะการเลือกใช้เหล็กเส้นข้ออ้อย SD50 จะใช้เหล็กในปริมาณที่น้อยกว่า แต่ยังคงความแข็งแรงเหมือนเดิมนั่นเอง    SD40 เป็นเหล็กชั้นคุณภาพ เหมาะสำหรับงานก่อสร้างขนาดกลาง มักใช้ในงานคอนกรีตเสริมเหล็กเช่น ถนน สะพาน อาคาร บ้าน และงานก่อสร้างทั่วไป     ส่วนเหล็กเส้นข้ออ้อย SD30 เมื่อก่อนจะนิยมใช้กันเป็นส่วนมาก แต่ปัจจุบันการผลิตนั้นนิยมผลิต SD40 มาทดแทน SD30 เป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากส่วนประกอบทางเคมีของ SD40 มีแรงต้านและแรงดึงที่แข็งแรงมากกว่า ดังนั้นเราจึงพบเจอเหล็กเส้นข้ออ้อย SD40 เท่านั้นในท้องตลาด

สัญลักษณ์ T ที่ต่อท้ายเหล็กข้ออ้อยคืออะไร

สัญลักษณ์ตัว T  คือการผลิต  เหล็กเส้นข้ออ้อยที่ผ่านกรรมวิธีรีดร้อน ผ่านกระบวนการทำให้เย็นโดยการฉีดสเปรย์น้ำเรียกว่า Heat treatment rebar หรือ tempcored rebar    ผู้ผลิตต้องประทับเครื่องหมาย T เป็นตัวนูนบนเนื้อเหล็กตามหลังชั้นคุณภาพที่ผลิตขึ้น ขอบเหล็กจะมีความแข็งแรงมากกว่าแกนในด้านคุณสมบัติไม่แตกต่างกันเท่าไหร่กับเหล็กเส้นข้ออ้อยที่ไม่มีตัว T ควรระวังการนำไปใช้โดยการนำไปกลึง

ราคาเหล็กเส้นข้ออ้อย

ราคาเหล็กเส้นข้ออ้อยต่อกิโลกรัม

25.60+

ราคาเหล็กเส้นข้ออ้อยวันนี้ต่อเส้น

เหล็กข้ออ้อย SD40 ขนาด ความยาว(m) น้ำหนัก(kg.) ราคา/กก. ราคา/เส้น
DB16 10 15.78 26.10+ 399.50
DB20 10 24.66 26.10+ 624.00
DB25 10 38.53 26.10+ 975.00

***ราคาเหล็กวันนี้ เป็นราคาส่งมอบหน้าโรงงาน ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดตามราคาวัตถุดิบ ปริมาณการสั่งซื้อ และยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % สามารถขอราคาเพิ่มเติมได้ที่    Line : @watsaduonline

เหล็กเส้นข้ออ้อยมีกี่ขนาด

เหล็กเส้นข้ออ้อย (deformed-bar) มีขนาดตั้งแต่ 10,12,16,20,22,25,28 และ 32 มิล มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่มีขายโดยทั่วไป คือ 12 และ 16 มม.  ความยาวของทุกขนาดอยู่ที่ 10 และ 12 เมตรตามมาตรฐาน มอก.

ขนาดเหล็ก ข้ออ้อย ขนาดเหล็ก ข้ออ้อย (หุน) เส้นผ่านศูนย์กลาง (มิลลิเมตร) ความยาวต่อเส้น (เมตร) น้ำหนักต่อเส้น (เส้นละ 10 เมตร)
DB10 เหล็กข้ออ้อย 3 หุน 10 10 6.17
DB12 เหล็กข้ออ้อย 4 หุน 12 10 8.88
DB16 เหล็กข้ออ้อย 5 หุน 16 10 15.78
DB20 เหล็กข้ออ้อย 6 หุน 20 10 24.66
DB25 เหล็กข้ออ้อย 1 นิ้ว 25 10 38.53
DB28 เหล็กข้ออ้อย  28 มม 28 10 48.34
DB32 เหล็กข้ออ้อย  32 มม 32 10 63.13
เหล็กเส้น
บทความเหล็กเส้น

คุณสมบัติของเหล็กเส้นข้ออ้อย

  • คุณสมบัติของเหล็กเส้นข้ออ้อยที่ดี ต้องผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูงที่ได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม มอก.24-2559
  • เหล็กข้ออ้อย SD30, SD40, SD50 มีกำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 3000 4000 5000 ksc.ตามลำดับ
  • ผิวของเหล็กเส้นข้ออ้อยจะมีลักษณะเป็นปล้อง ต้องมีระยะบั้งที่เท่ากัน และสม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น เพื่อเพิ่มแรงยึดเหนี่ยวให้เหล็กกับคอนกรีตมากขึ้น ไม่มีรอยสนิม รอยตำหนิ ไม่มีรอยปริและแตกร้าว
  • สามารถดัดโค้งได้ 180 องศา ที่รัศมีดัดโค้งมากกว่า 5 เท่าของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางเหล็กเส้น

ทำความรู้จักกับกำลังแรงดึงที่จุดคราก

SD30, SD40, SD50 ค่าที่ต่างกันนี้ คือ กำลังรับแรงดึงที่จุกครากในปริมาณต่างกัน เหล็กเส้นข้ออ้อยจะมีกำลังรับแรงดึงที่จุดครากไม่น้อยกว่า 3000 4000  5000 ksc.    หากเลือกใช้เหล็กที่มีกำลังรับแรงดึงที่จุดครากสูง จะสามารถประหยัดจำนวนเหล็กและต้นทุนในการก่อสร้างได้ด้วย    ผู้ที่มีหน้าที่คำนวณว่าควรใช้เหล็กเส้นข้ออ้อยประเภทใด ก็คือ วิศวกรโยธา

ชนิดของเหล็ก สัญลักษณ์ ความต้านแรงดึง ที่จุดคราก ความยืด (ร้อยละ)
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) SD30 >= 3,000 ksc >= 295 MPa    17
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) SD40 >= 4,000 ksc >= 390 MPa    15
เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar) SD50 >= 5,000 ksc >= 490 MPa    13

ร้านขายเหล็กเส้นข้ออ้อยราคาถูก

 ปัจจุบันมีร้านค้าที่ขายเหล็กเส้นข้ออ้อยอยู่มากมาย แต่จะดีมั้ยถ้าเราสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ในราคาถูกและคุณภาพดีด้วย ทั้งยังสะดวกกับการที่ไม่ต้องออกไปหาซื้อตามร้านค้าทั่วไป ประหยัดเวลาและค่าน้ำมัน

   โดยสามารถเข้าไปเลือกซื้อเหล็กเส้นข้ออ้อยและวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างได้ที่

วัสดุออนไลน์

    เป็นร้านค้าที่เชื่อถือได้ ผู้รับเหมาก่อสร้างไว้วางใจ ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตทำให้ผู้เลือกซื้อสินค้าเกิดความรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยในการใช้สินค้า

สรุป

เหล็กเส้นข้ออ้อย (deformed-bar) มีหลายขนาดและหลายความสามารถในการรับแรง ซึ่งเหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน การเลือกซื้อเหล็กเส้นข้ออ้อย ต้องขึ้นอยู่กับงานโครงสร้างที่ได้รับ

ดังนั้นเราควรเลือกเหล็กเส้นข้ออ้อย(deformed-bar)ให้เหมาะกับการใช้งาน เพื่อคุณภาพของงานที่ดี และคุ้มต้นทุนในงานก่อสร้าง เพราะ เหล็กเส้นข้ออ้อย เป็นเหล็กที่ขาดไม่ได้ในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ผู้รับเหมาต่างนิยมใช้