ทำความรู้จัก! ไวร์เมช เพื่อผู้รับเหมา
สารบัญ
- ทำความรู้จักไวร์เมช
- ไวร์เมช คือ
- ไวร์เมช แบ่งเป็น 2 ชนิด
- ขั้นตอนการผลิตไวร์เมช
- ขั้นตอนการเก็บรักษา แพคกี้ง และขนส่ง ไวร์เมช
- คุณสมบัติพิเศษของไวร์เมช
- ความแตกต่างของตะแกรงเหล็กไวร์เมช กับ เหล็กผูกแบบธรรมดา
- สรุป
ทำความรู้จัก! ไวร์เมช
เมื่อได้ยินคำว่า “ไวร์เมช (Wire Mesh)” หลาย ๆคน อาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร ซึ่งคนส่วนใหญ่จะเคยเห็นและรู้จักกันในภาพลักษณ์ที่เป็นตะแกรงเหล็ก
แบบแผ่น หรือเป็นม้วนใหญ่ ๆ ตามไซต์งานก่อสร้างต่าง ๆ ไวร์เมช (Wire Mesh)หรือ ตะแกรงเหล็กไวร์เมช ที่เรามักได้ยินกันบ่อยๆในวงการช่างรับเหมานั้น
รู้หรือไม่ว่ามันคืออะไร แล้วมีไว้เพื่อทำอะไรกันนะ
ไวร์เมช คือ
ตะแกรงเหล็กไวร์เมช คือ ตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปเสริมแรงคอนกรีต ตะแกรงเหล็กที่เป็นช่องๆ โดยใช้เหล็กรีดเย็น (Cold Draw Steel Wire) เชื่อมติดกันเพื่อใช้รองก่อนเสริมคอนกรีต โดยใช้เหล็กที่มีขนาด
3 มม. – 12 มม. สามารถตัดเป็นแผงหรือม้วนก่อนนำไปใช้หรือจำหน่าย เป็นการเชื่อมกันโดยไม่เสียเศาเหล็ก นิยมใช้แทนการผูกเหล็กแบบธรรมดาทั่วไป เพราะสามารถประหยัดได้ทั้งเวลาและแรงงาน
ตะเกรงเหล็กไวร์เมช ใช้เพื่อเพิ่มความแข็งให้กับพื้นหรือถนน เป็นตัวช่วยทำให้คอนกรีตเกาะกันดี ทนต่อการกดทับและสามารถรับน้ำหนักได้มาก
ไวร์เมช แบ่งเป็น 2 ชนิด
1. ไวร์เมช ชนิดม้วน
ไวร์เมชชนิดม้วน ทำจากลวดเส้นเหล็ก เริ่มตั้งแต่ 4 มม. ลงมา เพราะลวดขนาดเล็กสามารถงอหรือม้วนได้ แต่ลวดนั้นก็มีความแข็งแรงทนทานพอสำหรับใช้งาน
ไวร์เมชชนิดม้วน เป็นไวร์เมชที่เหมาะกับงาน พื้นอาคาร, พื้นบ้านทั่วไป โรงจอดรถในบ้าน เป็นต้น
2. ไวร์เมช ชนิดแผง
ไวร์เมช ชนิดแผง ทำจากลวดขนาดใหญ่ เริ่มตั้งแต่ 6 มม. ขึ้นไป ทั้งลวดกลมและลวดข้ออ้อย โดยการใช้ไวร์เมชชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้กับงานที่ต้องการความแข็งแรงมาก
เช่น งานถนนคอนกรีต, ลานจอดรถในห้าง, พื้นโกดังโรงงาน, ลานสนามบิน เป็นต้น
ขั้นตอนการผลิตไวร์เมช
มาดูกันดีกว่าว่า ไวร์เมชที่เราใช้งานกันอย่างแพร่หลาย กันในปัจจุบันนั้น มีขั้นตอนการผลิตอย่างไร
1. เริ่มจากการคัดเลือกเหล็กเส้นสำหรับนำมาทำไวร์เมช คือมีทั้งเหล็กเส้นกลม และเหล็กเส้นข้ออ้อย
ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 3 มม. ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับงาน และความต้องการใช้งานเหล็กไวร์เมช
2. นำเข้าเครื่องผลิต ในขั้นตอนนี้จะใช้การอาร์คติดเส้นลวดให้ติดกกันเป็นตะแกรงไวร์เมช
3. นำเหล็กเข้าเครื่องอาร์คไวร์เมชโดยกำหนดขนาดช่องว่าง อาจจะมีตั้งแต่ 20*20 ซม / 25*25 ซม. เป็นต้น
4. ได้ไวร์เมช ที่เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อย ได้มาตรฐานเหมาต่อการนำไปใช้งาน พร้อมใช้งานได้
ทั้งนี้ขั้นตอนการผลิตทุกขั้นตอนต้องผลิตด้วยความละเอียดและแม่นยำ เพื่อความปลอดภัย และสินค้าที่ได้คุณภาพ
ขั้นตอนการเก็บรักษา แพคกี้ง และขนส่ง ไวร์เมช
1. ขั้นตอนการเก็บรักษา ในที่นี้ จะเก็บไว้ในโกดังหรือสถานที่ที่เก็บไวร์เมชได้ในปริมาณมากๆ และไม่ทำให้ไวร์เมชเกิดความเสียหาย
2. ขั้นตอนการแพคกิ้ง สามารถแพคเป็นแบบแผงหรือแบบม้วนได้ เพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง และแยกชนิดไวร์เมช
3. ขั้นตอนการขนส่ง มีทั้งขนส่งไปทางรถเทลเลอร์ หรือใส่ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจะสามารถขนส่งไวร์เมชได้ในปริมาณครั้งละมากๆ
คุณสมบัติพิเศษของไวร์เมช
1. สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก ตะแกรงไวร์เมชนั้นช่วยทำให้คอนกรีตที่ใช้ในการเทพื้นสามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น
2. ทำให้การเกาะตัวของคอนกรีตนั้นอัดแน่นขึ้น เพราะตะแกรงไวร์เมชนั้นช่วยให้คอนกรีตเกาะตัวกันได้มากขึ้น ไม่ทำให้แตกง่าย ไม่หลุดออกจากกัน ยึดกันแน่น จึงนิยมใช้
ไวร์เมชในการทำงานถนนคอนกรีต ในหมู่บ้าน ในชนบท เพราะทำให้ถนนแข็งแรงขึ้น และสามารถรับน้ำหนักได้มาก
3. สามารถกันความร้อนได้ กัลวาไนซ์ไวร์เมชคือไวร์เมชชนิดหนึ่งที่เอาไว้เพื่อปูฉนวนกันความร้อน มักจะใช้กับงานหลังคา เป็นหลัก4. ความแข็งแรง ทนทาน ตะแกรงไวร์เมชช่วยให้พื้นของโกดังที่ต้องรองรับน้ำหนักมากๆ แข็งแรงมากขึ้นและลดการบุบหรือการแตกของพื้น
ทำให้สามารถใช้งานพื้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ความแตกต่างของตะแกรงเหล็กไวร์เมช กับ เหล็กผูกแบบธรรมดา
มาดูประโยชน์ของตะแกรงเหล็กไวร์เมชกันค่ะว่ามีอะไร ที่ดีกว่าการใช้งานเหล็กผูกแบบธรรมดา
1. ประหยัดต้นทุน ต้นทุนในที่นี้คือ ต้นทุนในการจ้างแรงงานมาผูกเหล็ก
2. ประหยัดเวลา เพราะการใช้เหล็กไวร์เมชนั้นสามารถสั่งผลิตได้ตามขนาดและจำนวนที่ต้องการ จึงไม่ทำให้เสียเศษเหล็กเป็นเหล็กสำเร็จรูปที่ทำมาพร้อมใช้งานแล้วทำให้ลดขั้นตอนการผูกเหล็กไป ดังนั้นจึงประหยัดเวลาในการผูกเหล็กมากกว่า
3. รวดเร็ว เพราะตะแกรงเหล็กมีวิธีการผลิตที่ลดขั้นตอนในการทำงานได้ถึง 50% เนื่องจากการขนส่งเคลื่อนย้ายสะดวกรวดเร็ว ตึ/ึ-ึตจๅ/ตสามารถนำไปใช้งานได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาในการผูกเหล็กแบบธรรมดา ทำให้ลดเวลาในการผูกเหล็กแบบธรรมดาลงได้ถึง 70-90%
3. แข็งแรงทนทาน เพราะตะแกรงเหล็กไวร์เมชนั้นผลิตแบบได้มาตรฐานด้วยระบบอัตโนมัติทุกระยะจุดเชื่อมไม่คลาดเคลื่อนได้มาตรฐานสม่ำเสมอตลอดผืนและมีความมั่นคงแข็งแรง จึงมั่นใจได้ว่า เหล็กจะแข็งแรงสม่ำเสมอกันตลอดทั้งแผ่น
4. ผลิตได้ตามขนาดที่ต้องการใช้งาน เพราะเป็นการผลิตด้วยเครื่องจักรที่ได้รับมาตรฐานจึงทำให้ไวรืเมชได้มาตรฐานตามที่ต้องการ ทำให้ได้ไวรืเมชที่มีขนาดของแผ่นหรือช่องว่างของตะแกรงเท่ากันทั้งแผ่น
5. รวดเร็วในการทำงาน เพราะตะแกรงเหล็กไวร์เมชใช้งานง่าย ตรวจสอบปริมาณได้ง่ายและรวดเร็วเพราะมีขนาดที่แน่นอนและเท่ากันทุกแผ่น เหล็กไวร์เมชจึงตรวจสอบปริมาณของแผ่นหรือคิดคำนวณการใช้งานเป็นตารางเมตรได้อย่างแน่นอนและแม่นยำ
6. ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารบ้านเรื่อน ตึกคอนโด โรงงานขนาดเล็ดใหญ่ หรือ ถนน ปูพื้นลานจอดรถ ปูพื้นโกดัง เพราะนิยมใช้ปูพื้นก่อนเทคอนกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับพื้น
7. กำลังคลาทสูงกว่าเหล็กผูกแบบปกติ เพราะเหล็กตะแกรงไวร์เมชนั้นทำจากโรงงานและมีขนาดเท่ากันทั้งแผ่นจริงทำให้ ได้กำลังคลาทที่สูงกว่าเหล็กผูกแบบปกติ
8. กำหนดเวลาการทำงานได้แน่นอน เพราะใช้งานได้ง่ายจริงทำให้ประหยัดเวลาและสามารถกำหนดเวลาที่งานเสร็จได้ค่อนข้างแน่นอน
9. สามารถช่วยให้งานก่อสร้างเสร็จได้รวดเร็วขึ้น เนื่องจากเหล็กตะแกรงไวร์เมชนั้น มีกระบวนการผลิตที่รวดเร็ว และได้ไวร์เมชที่ได้มาตรฐาน จึงนำมาใช้งานง่าย รวดเร็ว สามารถใช้ได้กับงานคอนกรีตเสริมเหล็กได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานโครงการเล็กใหญ่หรืองานเทพื้น/ซ่อมแซมรอบๆ ตัวบ้านได้ทุกขนาด เราสามารถเลือกใช้งานไวรืเมชได้ตามต้องการ
สรุป
จะเห็นได้ชัดว่าไวร์เมช (wire mesh) ดีกว่าเหล็กผูกอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องของต้นทุน ประหยัดเวลา ไม่ต้องมาผูกลวดหน้างาน ประหยัดคนงานเพราะเรานำเหล็กมาปูได้เลย จึงขอสรุปว่าการใช้ไวร์เมช (wire mesh)ดีกว่าเหล็กผูกธรรมดา
